생활정보

‘เหนื่อยมามาก...ลำบากมามาก...’ ใช้เวลา 11 ปี ในการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในเกาหลี

2022.11.09 10:10
조회수 713
Reporter Hasung Song
0

기사한줄요약

ศูนย์ครอบครัวเมืองกุนโพ, นำเสนอการเขียนเรียงความการปรับตัวในเกาหลีของผู้หญิงย้ายถิ่นจากการสมรส ‘วันคืนสู่เหย้า’

게시물 내용

บทความต่อไปนี้เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการนำเสนอโดยคุณพัค มีฮยาง ซึ่งเป็นชาวจีน ที่นำเสนอเรื่องราวของเธอในการปรับตัวให้เข้ากับเกาหลี สำหรับผู้หญิงย้ายถิ่นจากการสมรสที่งาน “วันคืนสู่เหย้าของครอบครัวกุนโพ” ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จะแนะนำให้ท่านได้รู้ จักบทความที่แสดงให้เห็นชีวิตและความสุข รวมทั้งความหวังสำหรับอนาคตของผู้หญิงย้ายถิ่นจากการสมรสซึ่งมีปัญหาในการปรับตัวให้เข้า กับชีวิตในเกาหลี <รูปภาพ = Papaya Story>

จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี

ดิฉันชื่อ พัค มีฮยาง และดิฉันมาจากเสิ่นหยาง ประเทศจีน เป็นเวลา 11 ปีแล้วที่ดิฉันมาเกาหลี และกำลังเข้าสู่ปีที่ 10 ของการแต่งงาน ดิฉันเป็นชนกลุ่มน้อยชาวโชซ็อนในประเทศจีน ตั้งแต่เด็กดิฉันเข้าเรียนในโรงเรียนประถม, มัธยมต้น, และมัธยมปลายของชาวโชซ็อน มหาวิทยาลัยจบการศึกษาจากโรงเรียนในมณฑลซานตง

ดิฉันเรียนเอกภาษาญี่ปุ่นตอนเรียนมหาวิทยาลัยและไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นทันทีหลังจากสำเร็จการศึกษา ดิฉันเรียนเอกภาษาญี่ปุ่นที่บัณฑิต วิทยาลัยของญี่ปุ่น หลังจากเรียนที่มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นเป็นเวลา 4 ปี ดิฉันทำงานพาร์ทไทม์หลายอย่าง ดิฉันจ่ายค่าครองชีพ, ค่าเล่าเรียน, และค่าเรียนต่อต่างประเทศด้วยตัวเอง แม้ว่าจะลำบากแต่ก็สนุกมากๆ และเป็นช่วงที่ดิฉันเติบโตมากที่สุด

การพบกันกับสามี

ในปี 2011 ดิฉันติดต่อกับสามีคนปัจจุบันผ่านทางอีเมลโดยการแนะนำของเพื่อนคนหนึ่งในประเทศจีน ในเดือนพฤษภาคม ปี 2011 ดิฉันได้พบกับสามีที่มาญี่ปุ่นเพื่อเที่ยวชมเมืองนาโกย่าเป็นครั้งแรก เราไปเที่ยวด้วยกันแบบเพื่อน 3 คืน 4 วัน ดิฉันตกหลุมรักตั้งแต่ แรกเห็นเพราะสามีของดิฉันอยู่ด้วยแล้วสบายใจในตอนนั้น วันที่สามีกลับเกาหลี ดิฉันร้องไห้หนักมากเพราะเสียใจมาก

หลังจากนั้น ดิฉันกับสามีก็เริ่มความสัมพันธ์ทางไกล โดยเดินทางไปมาระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่น ตอนนั้นดิฉันมีความสุขจริงๆ

แต่ไม่มีใครอวยพรให้ดิฉันและสามีเลย สถานการณ์ของสามี เช่น การศึกษาและความมั่งคั่งไม่ค่อยดีนัก ดิฉันรู้สึกสบายใจและมีความสุข เมื่อสามีอยู่ด้วยไม่ว่าจะมีเงื่อนไขอะไร ดังนั้นหลังจากคบกันได้ 6 เดือน ดิฉันจึงสละชีวิตในญี่ปุ่นและมาเกาหลี

ในช่วง 9 ปี ของการแต่งงาน สามีของดิฉันเรียนจบมหาวิทยาลัยในขณะที่ทำงานให้กับบริษัท และเงินเดือนของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เรามีบ้านและมีลูกชายที่แข็งแรงและน่ารัก

ชีวิตในเกาหลี

ดิฉันเรียนภาษาเกาหลีที่จีนตั้งแต่เด็ก ดังนั้นดิฉันจึงคิดว่าชีวิตในเกาหลีจะไม่ลำบากอะไร แต่เมื่อใช้ชีวิตจริงๆมันไม่ใช่เลย ใช้เวลานานและ ปรับตัวได้ยากเพราะภาษาและวัฒนธรรมแตกต่างกันมาก

ก่อนอื่น ดิฉันรู้สึกได้ถึงอุปสรรคทางภาษา แม้ว่าดิฉันจะคุ้นเคยกับภาษาเกาหลีตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แต่เนื่องจากดิฉันไม่ได้ใช้ภาษาเกาหลี ในชีวิตประจำวัน ดิฉันจึงไม่ค่อยเก่งด้านสำเนียง, การเลือกภาษา, และการแสดงออก ตั้งแต่ดิฉันอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่น เมื่อดิฉันพยายามจะพูด ภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาจีนก็ออกมาจากปากก่อน ในบางครั้งชาวเกาหลีถามดิฉันว่ามาจากญี่ปุ่นหรือเกาหลีเหนือ ดิฉันอายทุกครั้งที่พูดเกาหลี แต่เมื่อดิฉันเห็นผู้คน ดิฉันก็พยายามพูดต่อไป และก็เรียนภาษาเกาหลีไปพร้อมกับการดูข่าว เป็นผลให้ภาษาเกาหลีของดิฉันค่อยๆดีขึ้น

ความว่างเปล่าและความเสียดาย

ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ดิฉันลาออกจากบริษัทที่เคยทำงานมา 9 ปี และลาพักงาน 1 ปี หลังจากลาพักร้อนไป 1 ปี ลองมองย้อนกลับไป 11 ปีที่ผ่านมาในชีวิต ดิฉันก็เหลือแต่ความเสียดายและความว่างเปล่า เป็นเพียงว่าไม่มีความฝันสำหรับดิฉัน ตอนนี้ดิฉันกำลังพยายาม ทำความรู้จักว่าตัวเองเป็นใครและกำลังเริ่มมองหาสิ่งที่ดิฉันอยากทำจริงๆ ณ เวลานี้ของปีที่แล้ว ดิฉันไม่มีความฝัน 1 ปีผ่านไปและตอนนี้ดิฉัน มี 5 ความฝัน เมื่อดิฉันคิดถึงความฝันใหม่นี้ ดิฉันรู้สึกมีความสุขและหัวใจเต้นแรง

5 ความฝันของฉัน

เนื่องจากโควิด ดิฉันจึงเริ่มการปีนเขากับลูกชายตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ตั้งแต่ปีที่แล้วดิฉันได้ปีนเขาขึ้นไปทั้งหมด 27 ครั้ง จนถึงตอนนี้ มันสนุกและมีความสุขจริงๆ ที่ได้พูดคุยกับลูกชายขณะเดินป่า ในขณะที่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของภูเขาใน 4 ฤดูกาลของปี แม้ว่าดิฉันจะเป็นคุณย่า ดิฉันสัญญาว่าจะปีนเขา 100 ครั้ง 1000 ครั้งกับลูกชาย การปีนเขาได้กลายเป็นงานอดิเรกและความฝันร่วมกัน สำหรับดิฉันและลูกชาย

เวลาดิฉันไปปีนเขาหรือออกไปเที่ยวดิฉันชอบถ่ายรูป ดิฉันถ่ายรูปเยอะมากดังนั้นรูปภาพจึงสนุก และรู้สึกภูมิใจมากเมื่อมีภาพชีวิตของออกมา ดิฉันต้องการซื้อกล้องมือสองในปีหน้าและพยายามจะเป็นช่างภาพมืออาชีพในอนาคต ดิฉันต้องการทำอัลบั้มแห่งความทรงจำอันล้ำค่าโดยใช้ ชีวิตประจำวันของลูกชายและครอบครัว

นอกจากนี้ ในปีนี้ ดิฉันได้รับการแนะนำให้รู้จักกับจิตวิทยาด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมการเล่นบำบัดที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก เมื่อดิฉันเข้าสู่จิตวิทยา ดิฉันพบว่าดิฉันมีความนับถือตนเองต่ำและรู้สึกหดหู่เล็กน้อย ดังนั้นดิฉันจึงเริ่มรับการรักษาและรับคำปรึกษาโรคซึมเศร้า

นอกจากนี้ยังมีการรับคำปรึกษาคู่รัก ดิฉันได้รู้จักหัวใจที่เจ็บปวดของสามีผ่านการให้คำปรึกษาในชีวิตสมรส และดิฉันก็มีกล้ามเนื้อหัวใจ ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ชีวิตแต่งงานในปัจจุบันของดิฉันดีขึ้น ดิฉันอยากเป็นนักบำบัดการให้คำปรึกษาสำหรับครอบครัวโดยการเรียนจิตวิทยา ในอนาคต

ดิฉันยังชอบเขียน ในอนาคตดิฉันอยากจะเขียนเกี่ยวกับการปีนเขากับลูกชาย, ขั้นตอนการเป็นช่างภาพ, ขั้นตอนการเป็นที่ปรึกษาทาง จิตวิทยา และความฝันของดิฉันคือทำหนังสือของตัวเองก่อนอายุ 60 ปี

เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ดิฉันเรียนการเขียนโค้ดด้วยตัวเอง หลังจากเขียนโค้ดแล้ว ดิฉันต้องการสร้างเว็บไซต์ให้ลูกชาย ในเว็บไซต์นั้นดิฉันต้องการ บันทึกการเติบโตของลูกชายด้วยรูปถ่ายที่สวยงามและบทความ

เหนื่อยมามาก ลำบากมามาก”

ดิฉันอาศัยอยู่ในเกาหลีค่อนข้างดุเดือดมา 11 ปีแล้ว จากนี้ไปดิฉันอยากใช้ชีวิตที่เหลือด้วยการพักผ่อนบ้างเพื่อความสุขของตัวเอง และสุดท้ายสำหรับดิฉัน “มีฮยาง เธอเหนื่อยมามากเพื่อปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในเกาหลี ลำบากมามากแล้วขอบคุณนะ” ดิฉันอยากจะพูด ตลอดชีวิตที่เหลือ ดิฉันจะพยายามใช้ชีวิตตามความฝันเล็กๆ ทีละอย่างๆ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ขอบคุณค่ะ

 



0

댓글

0
영국말고미국
2021. 1. 17 13:00
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod
영국말고미국
2021. 1. 17 13:00
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod
영국말고미국
2021. 1. 17 13:00
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod

댓글을 작성하기 위해서는 로그인이 필요합니다