รัฐบาล, ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านประชากร...ประกาศนโยบายต่างๆ เพื่อรับมือกับภาวะฉุกเฉินอัตราการเกิดต่ำ

รัฐบาลเกาหลีได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับชาติและดำเนินการตอบสนองอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาอัตราการเกิดต่ำ ซึ่งกำลังดำเนินไปอย่าง รวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน <รูปภาพ = ข่าวยอนฮับ>

ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ได้จัดคณะกรรมการอัตราการเกิดต่ำและสังคมสูงวัย เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน และประกาศ “มาตรการต่อต้าน แนวโน้มอัตราการเกิดต่ำ” มาตรการนี้มุ่งเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ “ความสมดุลระหว่างงานและครอบครัว” “การดูแลเด็ก” และ “ที่อยู่อาศัย” ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของอัตราการเกิดต่ำ

สมัครลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้อย่างสบายใจ

ประการแรก รัฐบาลตัดสินใจปรับปรุงระบบสมดุลระหว่างงานและครอบครัวเพื่อให้แน่ใจว่ามีเวลาดูแลเด็กเพียงพอเมื่อจำเป็น

มีเนื้อหาที่สำคัญ 4 ประการ ▲นำเข้าการลาเพื่อดูแลเด็กระยะสั้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ปีละ 1 ครั้ง ▲เพิ่มค่าจ้างการลาเพื่อดูแลเด็ก ในขีดจำกัดสูงสุดเป็น 2.5 ล้านวอน ▲การจัดตั้งกองทุนสนับสนุนกำลังคนทดแทนสำหรับการลาเพื่อดูแลบุตร และ ▲ ขยายระยะเวลา การลาคลอดของพ่อเป็น 20 วัน

ถ้าดูเนื้อหาเหล่านี้อย่างละเอียด เงินเดือนการลาเลี้ยงดูบุตรในปัจจุบันซึ่งมีมูลค่าสูงสุด 1.5 ล้านวอน จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านวอน ในช่วง 3 เดือนแรก และ 2 ล้านวอน ในช่วง 3 เดือนถัดไป

นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศการทำงานในเกาหลีซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะขอลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร รัฐบาลได้ตัดสินใจที่จะปรับปรุงความสามารถ ในการขอลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรร่วมกับการลาคลอดบุตร เพื่อให้แรงงานสามารถใช้การลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวล นอกจากนี้ หากนายจ้างไม่อนุญาตให้ลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรเป็นลายลักษณ์อักษรภายในระยะเวลาหนึ่ง (ภายใน 14 วัน) ใบสมัครจะได้รับการ อนุมัติตามที่ร้องขอ

มีการตัดสินใจเพิ่มระยะเวลาการลาคลอดสำหรับพ่อจาก 10 วัน เป็น 20 วัน เพื่อให้พ่อได้มีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูลูกด้วย

มีการตัดสินใจที่จะเพิ่มระยะเวลารวมเมื่อพ่อและแม่ทั้งคู่ลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรนานกว่า 3 เดือน จาก 1 ปี เป็น 1 ปี 6 เดือน

นำเข้าแรงงานต่างชาติเพื่อเลี้ยงดูเด็ก

รัฐบาลได้ตัดสินใจที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการดูแลที่ทารกและเด็กอายุ 0 ถึง 11 ปี สามารถใช้ได้ มีเนื้อหาหลัก 3 ประการ ▲ การดำเนิน การด้านการศึกษาฟรีและการดูแลเด็กสำหรับเด็กอายุ 0 ถึง 5 ปีในระยะต่างๆ ▲ การขยายการดำเนินงานฟรีของโปรแกรมนึลบมเป็นระยะ ▲ การขยายศูนย์รับเลี้ยงเด็กในสถานที่ทำงานแบบทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้ประโยชน์ร่วมกัน

รัฐบาลวางแผนที่จะค่อยๆ ขยายการศึกษาฟรีและการดูแลเด็กไปยังเด็กอายุ 5 ปี ภายในปีหน้า และขยายเป็นเด็กอายุ 3 ปี และ 4 ปี หลังจากนั้น

โดยมีการจัดเตรียมเวลาทำการขั้นพื้นฐาน (8 ชั่วโมง) + การดูแลเด็ก (4 ชั่วโมง) เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้โรงเรียนอนุบาลหรือศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ได้มากเท่าที่ต้องการ และรับประกันการมีส่วนร่วม 100% สำหรับเด็กที่ต้องการเข้าร่วม

กล่าวกันว่าโรงเรียนนึลบมสำหรับประถมศึกษาจะขยายไปยังทุกระดับชั้นในทุกโรงเรียนทั่วประเทศภายในปี 2026 และการดำเนินการของ โครงการฟรีจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเช่นกัน ว่ากันว่าโรงเรียนนึลบมจะเปิดดำเนินการแม้ในช่วงวันหยุดในอนาคต

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการตัดสินใจที่จะให้ผู้อาศัยชาวต่างชาติมีส่วนร่วมในการดูแลบุตรอย่างจริงจัง โดยการนำเข้าแม่บ้านชาวต่างชาติ ประมาณ 1,200 คน ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และอนุญาตให้นักเรียนต่างชาติและคู่สมรสของแรงงานต่างชาติทำงานเป็นแม่บ้านได้ (5,000 คน ในโครงการนำร่อง)

เพื่อให้ครอบครัวที่คลอดบุตรใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายได้ง่ายขึ้น

รัฐบาลยังให้ความสนใจกับนโยบายที่อยู่อาศัยเพื่อให้แน่ใจว่าราคาที่อยู่อาศัยที่สูงของเกาหลีจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการแต่งงาน การคลอดบุตร และการเลี้ยงดูบุตร

โดยสรุปนโยบายดังกล่าวดังนี้ ▲ยกเลิกมาตรฐานรายได้ที่จำกัดสำหรับสินเชื่อพิเศษสำหรับทารกแรกเกิด ▲ขยายอุปทานที่อยู่อาศัย สำหรับครัวเรือนที่คลอดบุตรเป็น 120,000 ยูนิตต่อปี ▲จัดหาที่อยู่อาศัยสูงสุด 14,000 ยูนิตสำหรับคู่แต่งงานใหม่/ครัวเรือนที่คลอดบุตร /ครัวเรือนที่มีบุตรหลายคน ▲ที่อยู่อาศัยพิเศษสำหรับครัวเรือนที่คลอดบุตรรายใหม่ อนุญาตให้จัดหาเพิ่มเติมได้ 1 รายการ เป็นต้น

นอกเหนือจากการขยายการจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับคู่แต่งงานใหม่และครอบครัวที่คลอดบุตร ยังมีวางแผนที่จะทำให้การกู้ยืมเงินเพื่อ ซื้อบ้านและเช่าบ้านในอัตราดอกเบี้ยต่ำลงเป็นเรื่องง่ายขึ้น

นอกจากนี้ หากเด็กเกิดในขณะที่อาศัยอยู่ในบ้านเช่าสาธารณะ จะอนุญาตให้ต่ออายุสัญญาได้โดยไม่คำนึงถึงรายได้และทรัพย์สินจนกว่าเด็ก จะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ และหากต้องการก็จะมีการรองรับการย้ายไปยังพื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้น

ชีวิตประจำวันที่สะดวกสบายสำหรับครัวเรือนที่มีบุตรหลายคน

นอกจากนี้ยังมีการตัดสินใจที่จะใช้นโยบายที่สะดวกสำหรับครอบครัวที่มีบุตรหลายคนในชีวิตประจำวัน มีการตัดสินใจที่จะนำเข้าระบบ ช่องทางด่วน(Fast Track) ที่ช่วยให้เด็กๆ เข้าสถานที่ได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอคิวเมื่อไปยังสิ่งอำนวยความสะดวกทางวัฒนธรรมระดับชาติ  หรือสาธารณะ, สิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาหรือสถานที่ราชการ และติดตั้งช่องจอดรถสำหรับครอบครัวที่มีทารกโดยเฉพาะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการตัดสินใจที่จะสนับสนุนการกระจายการรับเข้าเรียนพิเศษสำหรับครอบครัวที่มีบุตรหลายคนภายในโควต้าที่ มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งดำเนินการด้วยตนเองในปัจจุบัน และขยายการสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชาติสำหรับครอบครัวที่มีบุตรหลายคน

รวมทั้งยังมีการตัดสินใจที่จะขยายขอบเขตของสิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษีการซื้อรถยนต์จากบุตร 3 คนขึ้นไป เป็นบุตร 2 คนขึ้นไป ในขณะเดียวกันก็ขยายส่วนลดสำหรับรถไฟความเร็วสูง/ที่จอดรถในสนามบิน/สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นต้น

 คิมบับ_Mania