기사한줄요약
게시물 내용
ในช่วงบ่ายของวันที่
10 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานแถลงข่าวขึ้นที่จัตุรัสฮวาซองแฮงกุง ในซูวอน
เพื่อประกาศการสนับสนุนผู้สมัครสตรีย้ายถิ่น ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งจากพรรคประชาธิปัตย์เกาหลีสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นระดับชาติครั้งที่
8 พร้อมกันที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน <รูปภาพ=จองมันชอนฮา - สมาคมสตรีผู้ย้ายถิ่น>
ในวันนี้
องค์กรต่างๆ เช่น สหพันธ์ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ย้ายถิ่นในเกาหลี (ประธาน อี
คยองซุก) ที่มีสมาชิก 400,000
คน ใน 8 สาขาทั่วประเทศ และสมาคมสตรีผู้ย้ายถิ่นจองมันชอนฮา (ตัวแทนร่วม อัน กีฮี) ซึ่งมีสมาชิกเข้าร่วมมากที่สุดในจังหวัดคยองกีตอนใต้
และเขตเลือกตั้งชั่วคราว ของสภาเทศบาลเมืองซูวอน (ยองฮวา, ยอนมู และโจวอน 1-ดง)
เข้าร่วมด้วย
ผู้สมัคร
หวัง กือนา ที่กล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกกล่าวว่า “สังคมที่ตระหนักและเคารพในความหลากหลายคือชุมชนที่แท้จริงในยุคโลกาภิวัฒน์”
และชี้ว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พวกเราเรียกร้องเรื่องพหุวัฒนธรรมและพูดคุยเกี่ยวกับความหลากหลายในการเลือกตั้งทุกครั้ง
แต่ไม่มี การจัดการใดๆ ด้วยเหตุนี้ เรื่องราวของแรงงานย้ายถิ่นจึงไม่ได้สะท้อนให้เห็นอย่างเหมาะสมในนโยบาย”
ผู้สมัครหวังยังกล่าวอีกว่า
“ถึงเวลาแล้วที่ผู้ย้ายถิ่นจะมีความคิดที่เป็นอิสระและแสดงให้พวกเขาเห็นในการปฏิบัติ”
และเผยว่า “ในประวัติศาสตร์ 30 ปี ของผู้ย้ายถิ่นที่เดินทางมาเกาหลี มีผู้ย้ายถิ่นที่เล่นการเมืองในพื้นที่ภาคกลางและในท้องถิ่น
เป็นตัวแทนตามสัดส่วน แต่ไม่มีตำแหน่งที่ได้รับเลือกตั้ง เช่นเดียวกับน้ำทะเลที่ยังคงรสเค็มของมันด้วยเกลือ
3% ดิฉันจะท้าทายตัวเองเพื่อให้ได้ตำแหน่งที่ได้รับ
การเลือกตั้งและชนะโดยไม่ล้มเหลว”
ในที่สุดผู้สมัครรับเลือกตั้งหวังให้คำมั่นว่า
“ดิฉันจะเป็นแรงผลักดันในการส่งเสริมนโยบายพหุวัฒนธรรมซึ่งรวมถึงปรัชญาคุณค่าของการ
เคารพในความหลากหลายและการพึงพาซึ่งกันและกันและอยู่ร่วมกัน”
ชเว มีจา
ประธานสาขาโบ-รยองของสมาคมครอบครัวพหุวัฒนธรรมชุงนัม
ผู้กล่าวคำปราศรัยครั้งที่สองกล่าวว่า “เป็นเวลา 20 ปีแล้วที่มา เกาหลี แต่ก็ยังมีผู้ย้ายถิ่นจำนวนมากที่อยู่รอบตัวเราที่ยังคงติดอยู่ในวงจรของการเลือกปฏิบัติและความเกลียดชัง”
และประกาศว่า
“เพื่อช่วยให้ชนเผ่าพื้นเมืองและผู้ย้ายถิ่นสามารถดำรงอยู่ในฐานะสมาชิกที่เท่าเทียมกัน
และตัดสินใจลงสมัครเป็นตัวแทนตามสัดส่วน ของเมืองโบ-รยอง เพื่อเปลี่ยนวิธีแก้ปัญหาให้เป็นนโยบาย”
ประธาน
อี คยองซุก ผู้ซึ่งประกาศการสนับสนุนครั้งล่าสุดกล่าวว่า “ปัจจุบัน เกาหลีได้กลายเป็นสังคมที่แยกออกจากพหุวัฒนธรรมไม่ได้
แต่ไม่ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเนื่องจากนโยบายและงบประมาณ
พหุวัฒนธรรมที่ทับซ้อนกันและเป็นทางการมากเกินไป” และเผยว่า
“หวังว่าผู้ย้ายถิ่นของเราจำนวนมากขึ้นจะเข้าสู่เวทีการเมืองที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้”
ประธานอียังกล่าวอีกว่า
“เมื่อมีผู้สมัครย้ายถิ่นจำนวนมาก
ครอบครัวพหุวัฒนธรรมและผู้ย้ายถิ่นจะสนใจการเลือกตั้งและการเมืองมากขึ้น”
และเผยว่า “ด้วยวิธีนี้ บุตรของครอบครัวพหุวัฒนธรรมสามารถอยู่ในโลกที่ดีขึ้นได้
ขอความสนใจและการสนับสนุนผู้สมัครสตรีย้ายถิ่นด้วย”
ในเกาหลี
เฉพาะในการเลือกตั้งท้องถิ่น ชาวต่างชาติที่ได้รับถิ่นที่อยู่ถาวร หลังจาก 3 ปี จะมีสิทธิในการเลือกตั้งเช่นกัน
นักข่าว ซง ฮาซอง
댓글
1