สรุปบทความหนึ่งบรรทัด
เนื้อหาประกาศ
เมื่อวันที่
21 ศูนย์วิจัยและส่งเสริมการเกษตรชุงนัมโดได้จัดการประเมินพืชผลกึ่งเขตร้อนที่สถานีทดสอบของสถาบัน <รูปภาพ=ศูนย์วิจัยและส่งเสริมการเกษตรชุงนัมโด>
การประชุมประเมินผล
ได้จัดทำขึ้นเพื่อค้นหาพันธุ์พืชกึ่งเขตร้อนที่เหมาะสมกับการเพาะปลูกในจังหวัด
อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลง
สภาพภูมิอากาศและ
การเพิ่มขึ้นของครอบครัวพหุวัฒนธรรม มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 30 คน เช่น
เจ้าหน้าที่จากศูนย์เทคโนโลยีการเกษตร
ในเมืองและเขต ในจังหวัด, เกษตรกรผู้ย้ายถิ่นจากการสมรส
และเกษตรกรผู้ปลูกพืชกึ่งเขตร้อน
ในการประชุมประเมินผล
มีการจัดแสดงคู่มือการเพาะปลูกถั่วเขียว 2 ชนิด และพืชกึ่งเขตร้อน 4 ชนิด เช่น
กลีบสน, เผือก และสำรวจความ
เป็นไปได้ในการสร้างรายได้
นอกจากนี้ยังได้ประเมินการเจริญเติบโต, รสชาติ, และความชอบของพืชกึ่งเขตร้อนในการแสดงนิทรรศการ
ศูนย์วิจัยและส่งเสริมการเกษตรชุงนัมโดวางแผนที่จะเลือกและจัดหาพืชผลที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้สูง
โดยการทบทวนผลการ
สำรวจ ความสามารถในการปรับตัวและความชอบด้านภูมิภาคของพืชแต่ละชนิดในเขตร้อนอย่างครอบคลุม
นักวิจัย ชเว คยองฮี กล่าวว่า
“แม้ว่าพืชผลกึ่งเขตร้อนจะมีสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของการผลิตผักในจังหวัด
แต่พื้นที่และความต้องการในการ เพาะปลูกก็เพิ่มขึ้นทุกปี” และเผยว่า
“เราจะส่งเสริมการวิจัยอย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนาคู่มือการเพาะปลูก
เพื่อให้เกษตรกรในจังหวัด
สามารถกำหนดเป้าหมายไปยังตลาดเฉพาะกลุ่มด้วยพืชผลกึ่งเขตร้อน”
ศูนย์วิจัยและส่งเสริมการเกษตรชุงนัมโดกำลังเพาะปลูกพืชกึ่งเขตร้อนประมาณ
30 ชนิด ซึ่งค่อนข้างง่ายที่จะเติบโตและสามารถให้ผลผลิตได้ อย่างน่าเชื่อถือ เช่น
ผักบุ้ง, กระเจี๊ยบเขียว, ผักโขมอินเดีย
และฟักแม้ว ในพื้นที่ทดสอบ
ไม่ใช่แค่ชุงชองนัมโดเท่านั้นที่ปลูกผักกึ่งเขตร้อน
ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรเขตฮัมยาง คยองนัม
กำลังส่งเสริมมะระขี้นกซึ่งเป็นผักในเขตร้อน ให้เป็นอุตสาหกรรมท้องถิ่น
และแฮนัมกุน จอลลานัมโด ก็กำลังปลูกกระเจี๊ยบเขียว, มะระขี้นก และฟักแม้ว อีกด้วย
ศูนย์วิจัยและส่งเสริมการเกษตรจอนบุกโดได้เริ่มปลูกผักกึ่งเขตร้อน เช่น กระเจี๊ยบเขียว อาร์ทิโชก, มะระขี้นก, โมโรเฮยะ, ผักบุ้ง เป็นต้น
เริ่มตั้งแต่ปี 2011
การเคลื่อนไหวนี้คาดว่าจะขยายตัวต่อไปในอนาคต
นักข่าว ซง ฮาซอง
ความคิดเห็น
0