อาชญากรรมทางเพศต่อชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น 2 เท่า, ชีวิตในเกาหลีกลายเป็นฝันร้าย?

ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ชายวัย 60 ปี บังคับขืนใจหญิงต่างชาติวัย 10 ปี ที่อาศัยอยู่ในอาคารใกล้เคียง ในเดือนมกราคมของปีนี้ ชายสองคนวัย 20 ปี ข่มขืนหญิงต่างชาติวัย 20 ปี ซึ่งดื่มด้วยกันที่หอพักของชาวต่างชาติในมหาวิทยาลัย และถูกส่งตัวไปดำเนินคดี <รูปภาพคือการประชุมสื่อสารด้านความปลอดภัยของผู้หญิงที่สถานีตำรวจซองดง, ไม่เกี่ยวข้องกับบทความ. บล็อกตำรวจสมาร์ทโซล>

ปีที่แล้ว จำนวนอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศในเกาหลีใต้อยู่ที่ 20,366 คดี ลดลง 13.2% จาก 23,467 คดี ในปี 2018 อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อจำกัดในการเข้าประเทศสำหรับชาวต่างชาติเนื่องจากโควิด19 แต่จำนวนอาชญากรรมทางเพศที่มุ่งเป้า ไปที่ชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 71 คดี เป็น 148 คดี ในช่วงเวลาเดียวกัน

ตามข้อมูลที่ได้รับจาก ส.ส. ชเว กีซัง จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากสถิติการก่ออาชญากรรมทางเพศต่อชาวต่างชาติแล้วข้อมูลที่ เกี่ยวข้อง เช่น ผลการดำเนินการ และสถานที่เกิดเหตุ ไม่ได้ถูกรวบรวม

นอกจากนี้ พบว่าการป้องกันและตอบโต้อาชญากรรมทางเพศที่มีเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติถูกละเลย เช่น การไม่ทราบว่าล่ามมีส่วนร่วมใน การสอบสวนเบื้องต้นหรือไม่

เนื่องจากคอนเทนต์ฮันรยู เช่น เพลงและภาพยนตร์ยอดนิยมกำลังได้รับความนิยมทั่วโลก คาดว่าชาวต่างชาติจำนวนมากจะมาเที่ยว เกาหลีหลังจากสิ้นสุดโควิด19 แต่การจัดการอาชญากรรมทางเพศต่อชาวต่างชาติที่ไม่ดีอาจทำให้ชีวิตกลายเป็นฝันร้ายในเกาหลีได้ ดังนั้นจึงจำ

เป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม

ส.ส. ชเว กีซัง กล่าวว่า “แม้ว่าเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศชาวต่างชาติจะแจ้งความที่สถานีตำรวจหรือสำนักงานเขตที่ใกล้ที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะสอบสวนอย่างเหมาะสม หากพวกเขาไม่ได้แจ้งสถานการณ์ความเสียหายให้ตำรวจทราบอย่างถูกต้อง” และเผยว่า “ในกรณีที่มี การกระทำความผิดทางเพศต่อชาวต่างชาติ จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าล่ามอาสาสมัคร ฯลฯ มีส่วนร่วมในการสอบสวนตั้งแต่การตอบสนองครั้งแรก เพื่อป้องกันและตอบโต้ต่อการกระทำความผิดทางเพศต่อชาวต่างชาติ”

จากการยืนยันจากสำนักงานของส.ส.ชเว กีซัง ตำรวจกำลังจัดการล่ามพลเรือน 3,338 คน ที่สำนักงานภูมิภาคแต่ละแห่งทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม พบว่าจำนวนครั้งที่ส่งล่ามไปยังพื้นที่เกิดเหตุที่มีการรายงานจริง เช่น ป้อมตำรวจหรือหน่วยรับแจ้งความประจำเขต หรือเข้าร่วม ในการสอบสวนเบื้องต้นไม่ได้รับการจัดการล่ามอาสาสมัครมักจะได้รับการจัดการโดยสถานีตำรวจและมีส่วนร่วมในขั้นตอนการสอบสวนของสถานีตำรวจ ดังนั้นจึงสันนิษฐานว่าพวกเขา แทบจะไม่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนเบื้องต้นที่แท้จริง

ระบบล่ามของตำรวจเป็นระบบที่แต่ละหน่วยงานตำรวจในท้องที่จัดการคนเกาหลีและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเกาหลีในฐานะล่ามส่วนตัว ที่ไม่ใช่ผู้มีถิ่นที่อยู่ และหากจำเป็นต้องใช้ล่ามในระหว่างกระบวนการสอบสวน จะเป็นระบบที่ดำเนินการตรวจสอบโดยการเจรจากำหนดตารางเวลาสำหรับล่าม ณ เดือนสิงหาคมปีนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงโซล 610 คน, ปูซาน 185 คน, คยองกี 651 คน รวมทั้งหมด 3,338 คนทั่วประเทศ

 นักข่าว ซง ฮาซอง